Menu
สายด่วนบริการลูกค้า : 02-692-8404-12

หน้าแรก / ข่าวสาร

เดนมาร์ก "ยุคใหม่" "กังหันไฟฟ้า" มากกว่า "โคนม"

13/01/2020

        ถ้าหากพูดถึงประเทศเดนมาร์ก เชื่อว่าคนไทยต่างรู้จักคุ้นเคยมาเป็นเวลายาวนาน อย่างคนที่มีอายุหน่อยอย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริค ที่ 9 แห่งเดนมาร์ก พร้อมพระราชินีเสด็จเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของ ในหลวงรัชกาลที่ 9
        ทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จไปเปิดฟาร์มโคนมและโรงงานผลิตนมวัวที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 16 มกราคมของปีดังกล่าว นับเป็นจุดเริ่มของ ฟาร์มโคนม-ไทยเดนมาร์ค ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และต่อมาก็มีการจัดตั้งฟาร์มโคนมแห่งนี้ขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจ เรียกกันว่า องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ ก็คือผู้ผลิตนมตรา “วัวแดง” ที่คนไทยรู้จักอย่างดีในปัจจุบันนี้         ดังนั้นพอพูดถึงเดนมาร์กคนไทยก็มักจะนึกถึง “วัวนม” มากกว่าอะไรทั้งหมด แม้แต่ฉายาของประเทศเดนมาร์กในการแข่งขันฟุตบอล สื่อมวลชนไทยก็จะตั้งฉายาให้ว่า “นักเตะแดนโคนม”
       แต่ถ้าเราไปดูว่าโครงสร้าง GDP ของเดนมาร์กปัจจุบันประกอบด้วยอะไรบ้างจะรู้สึกแปลกใจว่าตลอด 50 ปีที่ผ่านมาเดนมาร์กได้มีการพัฒนากระจายฐานการผลิตและรายได้ไปสู่สาขาอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ
       ในปี 2017 ที่ผ่านมารายได้จาก สาขาบริการ เป็นรายได้สูงสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP โดยมีสาขาอุตสาหกรรมรองลงมาอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ทางด้านการเกษตรเหลือเพียงไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
       โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่เขาส่งออกในขณะนี้ก็มีทั้งผลิตภัณฑ์จากเคมีภัณฑ์ต่างๆ มีเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักร เครื่องกล สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และล่าสุดมาแรงมากก็คือเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตกระแสไฟฟ้าจาก “พลังลม” นั่นเอง
       มาถึงตรงนี้เราก็มาคุยกันถึงเรื่องนโยบายด้านพลังงานของเขาได้ละ เพราะพลังงานจากลมนี่แหละที่เป็นจุดเด่นของเดนมาร์กในปัจจุบัน
       รัฐบาลเดนมาร์กได้ประกาศเป็นนโยบายไว้ตั้งแต่ ค.ศ.2012 ว่าเขาจะใช้พลังงานสะอาดให้ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานทั้งหมดในปี ค.ศ.2030 โดยจะให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ ปราศจากการใช้พลังงานที่มาจากฟอสซิลและถ่านหินโดยสิ้นเชิงใน ค.ศ.2050 หรือจากนี้ไปอีก 31 ปี
       นับเป็นนโยบายที่กล้าหาญมาก และไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แต่ด้วยความร่วมมืออย่างแข่งขันระหว่างภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำให้เดนมาร์กเดินหน้ามาได้ไกลพอสมควร
     ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ตัวเลขการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังสะอาดต่อพลังงานทั้งหมดอยู่ที่ 32.8 เปอร์เซ็นต์ เข้าใกล้เป้าหมาย 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2030 ไปทุกขณะ
     ถ้ามองเฉพาะในด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าตัวเลขล่าสุดยืนยันได้ว่ามาจากพลังงานหมุนเวียนถึง 72 เปอร์เซ็นต์      ที่สำคัญกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตกระแสไฟฟ้าของเขามาจาก “พลังลม” ซึ่งเป็นจุดเด่นของเดนมาร์กในปัจจุบัน
      ดังนั้นหากใครไปไหนมาไหนในเดนมาร์กเราจะเห็นเสา “กังหันลมปั่นไฟฟ้า” ตั้งตระหง่านเป็นทิวแถว...ทั้งในทุ่งนาและในทะเล      ตัวเลขเมื่อปี 2017 ระบุว่าทั่วประเทศเดนมาร์กขณะนี้มีเสากังหันลมปั่นไฟรวมทั้งสิ้นถึง 14,777 เสา โดยจะอยู่บนบก 9,597 เสา และอยู่ในทะเล 5,180 เสา
     จึงทำให้ตั้งข้อสังเกตไว้ในหัวเรื่องว่าเดนมาร์กยุคนี้ดูท่าจะไม่ใช่ “ดินแดนโคนม” แล้ว แต่เป็นดินแดนกังหันลมผลิตไฟฟ้าเสียมากกว่า ตอนนี้หากคนให้โจทย์แข่งขันมาว่าระหว่างให้หาฟาร์มโคนมสักแห่งกับให้หากังหันลมผลิตไฟฟ้าสักต้นในประเทศเดนมาร์ก บอกเลยว่าให้เลือกหากังหันลมผลิตไฟฟ้าเพราะคุณจะได้รับชัยชนะไปอย่างง่ายดาย